ประโยชน์ของมวยไทเก็ก
ชาวจีนเชื่อว่าหากฝึกมวยไทเก็ก อย่างถูกต้องเป็นประจำวันละ 2 รอบ เป็นเวลานาน ๆร่างกายจะอ่อนไหวอย่างเด็ก สุขภาพจะแข็งแรงอย่างคนตัดไม้และจิตสงบอย่างนักปราชญ์ความเชื่อนี้ไม่เกิน ความจริงเพราะคนที่ฝึกต่างได้รับผลอย่างนั้นหรือ…ยิ่งกว่านั้น
ประโยชน์ด้านร่างกาย
- กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และกระดุก ทุกส่วนของร่างกายมีโอกาสได้เคลื่อนไหว รักษารูปร่างให้พอดี ไม่ผอม ไม่อ้วน
- เพิ่มประสิทธิภาพของการแลกเปลี่ยนแกสที่ปอด ป้องกันวัณโรค ช่วยให้หายใจได้ลึก
- ทำให้หัวใจเต้นแรง แต่รักษาจังหวะช้า ๆ และสม่ำเสมอ
-รักษา และป้องกันอาการคั่งเลือดของร่างกาย การตีบตันและแข็งตัวของหลอดเลือดจึงเป็นการป้องกันเส้นดลหิตในสมองแตก (apolexcy) ช่วยการหมุนเวียนโลหิตจึงเป็นการป้องกันดรคอัมพาต (paralysis) และตะคริว (cramp) เป็นต้น
- ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญ และการขับถ่ายของเสีย
- ระบบประสาท และสมองได้พักผ่อนและซ่อมแซมตัวเอง รวมทั้งระบบอื่น ๆ ด้วย
- ทำให้ร่างกายอบอุ่นในฤดูหนาว และเย็นสบายในฤดูร้อนหลังจากมีเหงื่อออก
- บริหารไตให้แข็งแรง ซึ่งจะมีผลต่อร่างกายส่วนอื่นให้ดีขึ้น และช่วยสะเทิน (neutralization) อาหารที่เป็นพิษ
- ป้องกันการก่อตัวหรือตกตะกอนของหินปูน (lime) ในกระดูกของผู้สูงอายุ อันจะนำไปสู่โรค paraplegia
- ฝึกร่างกายให้อดทน ทำงานหนักได้ ไม่เหนื่อยง่าย (indefatigable) ไม่เป็นโรคอ่อนเพลีย (nurathenia)
- ช่วยให้ผิวหนังแข็งแรง ป้องกันผิวหนังร้อน (boil) โรค Psoriasis และสิวต่าง ๆ เป็นต้น
-สภาพร่าง กายที่ได้จากการฝึกฝน มวยไทเก็ก เป็นเวลายาวนาน :-แก้มจะมีสีแดงแสดงถึงความมีสุขภาพดี ขมับจะเต็มอิ่มขึ้นมา หูจะมีสีแดงเข้มการได้ยินจะว่องวัย ลูกตาจะมีประกายชีวิตชีวา เสียงจะดังและกังวาลไกลการหายใจจะเป็นปกติ ไม่หอบเหนื่อยหรือเร่งร้อน ฟัน เหงือกและขากรรไกรจะแข็งแรง ไหล่และอกจะแข็งแรงและเรียบ (sturdy and sluk)ท้องจะแข็งแต่หยุ่นได้ (solid and elastic) คล้ายหนังกลองเมื่อยืนเท้าทั้งสองจะรู้สึกว่าติดแน่นกับพื้น และสามารถเปลี่ยนจาก “มี”เป็น “ไม่มี” หรือกลับกันได้ การก้าวเท้าจะเบากล้ามเนื้อจะอ่อนนุ่มดุจปุยฝ้าย ขณะที่ “พลังแท้จริง (จิ้ง)” ยังไม่ถูกใช้(inactive) แต่กล้มเนื้อจะเหนียวแน่น (stiff) ขึ้นเมื่อพลังงานแท้จริงถูกใช้ (active)นอกจากนี้ผิวหนังจะเรียบและผ่องใสออกสีชมพู (irosy)และว่องไวต่อการสัมผัสฟัง (sensitively auditive)
ประโยชน์ด้านจิตใจ
- ฝึกนิสัยให้เป้นคนหนักแน่น อดทน เยือกเย็น และมีขันติ
- ฝึกประสาทให้แหลมคม
- ฝึกสมาธิให้แน่วแน่ในการทำงาน
- ยกระดับจิตใจให้มีความเมตตา กรุณา เข้มใจเพื่อนมนุษย์และเข้าใจตนเอง
ประโยชน์ด้านการรักษาโรค และอาการผิดปกติของร่างกายและจิตใจ
- โรคกระเพาะ อาหารไม่ย่อย และท้องผุก
- โรคประสาท ปวดศีรษะ นอนไม่หลับ
- โรคโลหิตจาง (anemia) ความดันสูง-ต่ำ โรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน หัวใจอ่อน และช้ำในจากการถูกกระแทก
-โรคทางกระดูก เส้นเอ็น และกล้ามเนื้อ เช่น รุมาติสม์ กล้ามลีบ เหน็บชาอัมพาตกล้ามเนื้อ และรำ มวยไทเก็ก หลังจากต่อกระดูกที่หักแล้ว
- ยกระดับภูมิต้านทานโรคโดยส่วนรวม
ประโยชน์ด้านร่างกาย
- กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และกระดุก ทุกส่วนของร่างกายมีโอกาสได้เคลื่อนไหว รักษารูปร่างให้พอดี ไม่ผอม ไม่อ้วน
- เพิ่มประสิทธิภาพของการแลกเปลี่ยนแกสที่ปอด ป้องกันวัณโรค ช่วยให้หายใจได้ลึก
- ทำให้หัวใจเต้นแรง แต่รักษาจังหวะช้า ๆ และสม่ำเสมอ
-รักษา และป้องกันอาการคั่งเลือดของร่างกาย การตีบตันและแข็งตัวของหลอดเลือดจึงเป็นการป้องกันเส้นดลหิตในสมองแตก (apolexcy) ช่วยการหมุนเวียนโลหิตจึงเป็นการป้องกันดรคอัมพาต (paralysis) และตะคริว (cramp) เป็นต้น
- ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญ และการขับถ่ายของเสีย
- ระบบประสาท และสมองได้พักผ่อนและซ่อมแซมตัวเอง รวมทั้งระบบอื่น ๆ ด้วย
- ทำให้ร่างกายอบอุ่นในฤดูหนาว และเย็นสบายในฤดูร้อนหลังจากมีเหงื่อออก
- บริหารไตให้แข็งแรง ซึ่งจะมีผลต่อร่างกายส่วนอื่นให้ดีขึ้น และช่วยสะเทิน (neutralization) อาหารที่เป็นพิษ
- ป้องกันการก่อตัวหรือตกตะกอนของหินปูน (lime) ในกระดูกของผู้สูงอายุ อันจะนำไปสู่โรค paraplegia
- ฝึกร่างกายให้อดทน ทำงานหนักได้ ไม่เหนื่อยง่าย (indefatigable) ไม่เป็นโรคอ่อนเพลีย (nurathenia)
- ช่วยให้ผิวหนังแข็งแรง ป้องกันผิวหนังร้อน (boil) โรค Psoriasis และสิวต่าง ๆ เป็นต้น
-สภาพร่าง กายที่ได้จากการฝึกฝน มวยไทเก็ก เป็นเวลายาวนาน :-แก้มจะมีสีแดงแสดงถึงความมีสุขภาพดี ขมับจะเต็มอิ่มขึ้นมา หูจะมีสีแดงเข้มการได้ยินจะว่องวัย ลูกตาจะมีประกายชีวิตชีวา เสียงจะดังและกังวาลไกลการหายใจจะเป็นปกติ ไม่หอบเหนื่อยหรือเร่งร้อน ฟัน เหงือกและขากรรไกรจะแข็งแรง ไหล่และอกจะแข็งแรงและเรียบ (sturdy and sluk)ท้องจะแข็งแต่หยุ่นได้ (solid and elastic) คล้ายหนังกลองเมื่อยืนเท้าทั้งสองจะรู้สึกว่าติดแน่นกับพื้น และสามารถเปลี่ยนจาก “มี”เป็น “ไม่มี” หรือกลับกันได้ การก้าวเท้าจะเบากล้ามเนื้อจะอ่อนนุ่มดุจปุยฝ้าย ขณะที่ “พลังแท้จริง (จิ้ง)” ยังไม่ถูกใช้(inactive) แต่กล้มเนื้อจะเหนียวแน่น (stiff) ขึ้นเมื่อพลังงานแท้จริงถูกใช้ (active)นอกจากนี้ผิวหนังจะเรียบและผ่องใสออกสีชมพู (irosy)และว่องไวต่อการสัมผัสฟัง (sensitively auditive)
ประโยชน์ด้านจิตใจ
- ฝึกนิสัยให้เป้นคนหนักแน่น อดทน เยือกเย็น และมีขันติ
- ฝึกประสาทให้แหลมคม
- ฝึกสมาธิให้แน่วแน่ในการทำงาน
- ยกระดับจิตใจให้มีความเมตตา กรุณา เข้มใจเพื่อนมนุษย์และเข้าใจตนเอง
ประโยชน์ด้านการรักษาโรค และอาการผิดปกติของร่างกายและจิตใจ
- โรคกระเพาะ อาหารไม่ย่อย และท้องผุก
- โรคประสาท ปวดศีรษะ นอนไม่หลับ
- โรคโลหิตจาง (anemia) ความดันสูง-ต่ำ โรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน หัวใจอ่อน และช้ำในจากการถูกกระแทก
-โรคทางกระดูก เส้นเอ็น และกล้ามเนื้อ เช่น รุมาติสม์ กล้ามลีบ เหน็บชาอัมพาตกล้ามเนื้อ และรำ มวยไทเก็ก หลังจากต่อกระดูกที่หักแล้ว
- ยกระดับภูมิต้านทานโรคโดยส่วนรวม
อ้างอิงจาก www.google.com www.doothaithai.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น